วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ยุทธศาสตร์เปลี่ยนประเทศไทย โดยสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง

ยุทธศาสตร์เปลี่ยนประเทศไทย โดยสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง 22 ตค 2552

เรียนท่านสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง และประชาชน ที่มีหัวใจรักชาติ ทุกท่าน

ดิฉันขอ เสนอยุทธศาสตร์เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตประเทศไทย ภายในวาระของพวกเราสามารถทำได้ ทุกคนห่วงใยกัน ด้วยเหตุและผล และแนวทางที่น่าจะพัฒนาสู่ความสำเร็จในเร็ววัน ขอเสนอแนวคิด ดังนี้

1 ปัจจุบันเราจะพบว่าผู้บริหารระดับประเทศ มักมองผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้องมากกว่าผลประโยชน์ ชาวบ้าน หากเราหันไปดูที่มาของนักการเมือง และชนชั้นปกครอง หรือข้าราชการ ที่ถูกนักการเมืองแต่งตั้ง มักจะได้คนที่สนองความต้องการของเขามากว่าคนที่จะทำงานให้ชาติบ้านเมือง เราจะเห็นว่าทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง นักการเมืองที่ได้จากการเลือกตั้งมักมีข่าวคราวเรื่องการโกงเลือกตั้ง การนับคะแนนที่ไม่โปร่งใส่ การซื้อสิอทธิขายเสียง ดังนั้น พอจะสรุปได้ว่าต้นเหตุของการเมืองที่ไม่พัฒนาเพื่อประชาชน ก็เพราะเราปล่อยให้เกิดเกณฑ์การเลือกตั้งที่มีช่องโห่วงให้เกิดการโกงเข้ามา จึงจำเป็นต้องตัดวงจรชั่วร้ายนี้ (www.thammapiban.com)ให้ได้ ก่อนที่ประเทศเราจะถอยหลังไปมากกว่านี้ จนคนดี หรือข้าราชการดีๆ ที่ไม่ร่วมโกงกิน ไม่มีที่ยืน

ดังนั้นเราจึง จึงควรให้แก้ไขเกณฑ์การเลือกตั้งโดยให้ทุกภาคร่วมมือกันจัดเสวนา แล้วรวบรวมเสนอสู่กกต.เพื่อนำสู่การผลักดันให้ แก้ไขเกณฑ์การเลือกตั้ง ซึ่ง ได้แนบของคุณอุดรตันติสุนทร ที่เขียนถึงญี่ปุ่นแก้ปัญหาซื้อเสียงได้สำเร็จและเอาจริง

ต้องตัดวงจรชั่วร้าย ของการเมืองไทยให้ได้ รายละเอียดดูในคู่มือประชาธิปไตย และwww.thammapiban.com


2 หลักการที่สอง ประชาชนไม่รู้จักคำว่าประชาธิปไตยที่ถูกต้องเป็นอย่างไรเลือกตั้งหย่อนบัตรเสร็จก็ตัวใครตัวมัน หรือ พึ่งนักการเมืองเพียงแค่ เงินค่าทำบุญ ทอดกฐิน งานบวชงานแต่งานศพฯ เพราะฉะนั้นจุดอ่อน ของเราคือการเผยแพร่ประชาธิปไตยอย่าง ถูกต้องตามหลักวิชาการ และ การสร้างความเข้มแข็งการเมืองภาคประชาชนหรือภาคพลเมือง โดยสภาพัฒนาการเมือง หรือกลุ่มบุคคลต่างๆที่รักบ้านเมือง ทุกท่านสามารถสร้างเครือข่าย รวมทั้งสื่อท้องถิ่น สื่อต่างๆ หรือ เป็นผุ้สนับสนุนให้เกิดเครือข่ายในแต่ละจังหวัด แล้วรวมตัวกันทั่วประเทศ อาจจะใช้ในนามของสมัชชาพัฒนาการเมือง หรือชื่ออะไรก็แล้วแต่ โดยมีชื่อที่อยู่และการทำทะเบียนชาวบ้าน มีงบประมาณกองทุนพัฒนากาเรมือง และสถานที่ให้ประชาชนมารับการติดต่อ และสอบถาม (ศูนย์ประสานงานภาคและจังหวัด ) รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชนในการมีส่วนร่วมในการปกครอง มีที่ปรึกษาทางกฎหมาย ประจำจังหวัด หรือภาค ให้เชื่อมโยงกับสภาองค์กรชุมชน และสิ่งที่มีอยู่ในจังหวัด เช่นอัยการจังหวัด หรือหน่วยงานยุติธรรมอื่นๆ

การจัดตั้งสภาพัฒนาการเมืองระดับภาค หรือ การตั้งสมัชชาประชาชน ระดับภาค และระดับจังหวัด ท้องถิ่น เพื่อประชาสัมพันธ์ เชื่อมโยง นโยบาย กฎหมาย ที่สำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มต่างๆ กระจายสู่ประชาชนเพื่อ รู้ข้อมูลนโยบาย และเสนอแนะ ทักท้วง ร้องขอสภาพัฒนากากรเมือง อื่นๆ เช่น ตั้งสภาเยาวชนประจำ ตำบล หรือท้องถิ่น หรือให้เยาวชน รวมกับสภาองค์กรชุมชน

การเชิญชวนกระตุ้นให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตาม ทักท้วง เสนอแนะ การบริหารประเทศ ผ่านสื่อทุกสื่อ ผ่านทางโรงเรียน สถานศึกษา หน่วยงานรัฐ และเอกชน ในระบบ และ นอกระบบ ผ่านสื่อทุกชนิด ใบปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ ผ่านสื่อทุกสื่อ ที่ท่านสามารถเชื่อมโยงกันได้ ฯลฯ

-ระดับชาติ = NBT , TPBS. วิทยุกรมประชาสัมพันธ์ วิทยุรัฐสภา

-ระดับท้องถิ่น = วิทยุชุมชน ขอเวลา 5 % ( 1-2 ชั่วโมง / วัน ) เคเบิล หอกระจายข่าว

- ส่วนกลาง ขอความร่วมมือ พื้นที่สื่อ ทุกสื่อ กรมประชาสัมพันธ์ สื่อต่างๆ สำหรับงานประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ เรื่องสิทธิหน้าที่ บทบาทของประชาชนต่อระบบการปกครองประชาธิปไตย 1% ของสิ่งพิมพ์

-ให้รัฐ ขอความร่วมมือจากทุกองค์กรของสื่อ

เมื่อประชาชนรับรู้สิทธิหน้าที่ และมีสื่อที่จะสื่อถึงกัน โดยอาจจะผ่านเวบไซด์ หอกระจายข่าวในชุมชน วิทยุชุมชน ท่านก็สามารถเป็นตัวเชื่อมประสานในแต่ละจังหวัด เชิญตัวแทนชุมชน ตำบล หมู่บ้านมาร่วมกิจกรรม และสร้างฐานการเมืองภาคพลเมืองให้เข้มแข็ง โดยอาจจะมีสมาชิกเป็นพี่เลี้ยงให้ มีงบสนับสนุน กิจกรรมที่จำเป็น ในการพบปะกันเดือนหรือสองเดือนครั้ง

ที่จำเป็นอีกอันคือ ตัวองค์ความรู้ด้านประชาธิปไตย ความจำเป็นของการเมืองต่อชีวิตประจำวัน อาจจะให้อาจารย์ในมหาลัยในพื้นที่ร่วมกันจัดทำ ไม่ว่าเทปซีดี คู่มือ เพื่อให้ประชาชนไปเปิดตามหอกระจายข่าวในชุมชน วิทยุ เคเบิลทีวี

3 ยุทธศาสตร์ ติดตามการปฏิบัติตามตัวชี้วัดธรรมาภิบาลและ ประชาธิปไตยในหน่วยงาน ร่วมทั้งในรัฐวิสาหกิจ ทุกหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา ในแต่ละภาคระดมสมองดันหนึ่งครั้ง แล้วรวบรวมนำเสนอ สู่สภาเห็นชอบ แล้วเสนอสู่รัฐบาลเป็นผลงานของสภา เพื่อผลักดันให้เกิด ธรรมาภิบาลและประชาธิปไตยในหน่วยงาน

ให้ทุกหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ สร้างกรอบธรรมาภิบาล ระบบประชาธิปไตยในหน่วยงาน ทั้งกับข้าราชการชั้นผู้น้อย ในสังกัด ประชาชนที่มาติดต่อ นักศึกษาในมหาวิทยาลัย นักเรียนในโรงเรียน มีการวัดประเมินผล และ จับต้องได้ มีผลต่อการให้โบนัส รางวัล เช่น การเปิดพื้นที่ให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนใช้สถานที่ของราชการ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สนับสนุนทั้งงบประมาณ สถานที่ พื้นที่สื่อ สนับสนุนการเคลื่อนไหวของประชาชน เยาวชน นักศึกษา ในรูปแบบของสภาประชาชน เช่น การมีส่วนร่วมในทุกระดับ

4 สร้างกระแสความรักชาติ เร่งผลักดันให้มีการปลูกฝังความรักชาติ จัดให้มีวรรณกรรมปลูกฝัง

ความรักชาติ ความเสียสละ ตั้งแต่ เด็ก สถานศึกษาทุกแห่ง ปลูกฝังความรักชาติ รักประชาชน รักแผ่นดิน

เสียสละ การปรับปรุงระบบการศึกษาการเรียนการสอน ระบบการคัดเลือก ให้ประชาชนฉลาดในการ

ประกอบอาชีพ รู้เท่าทัน และสามารถยืนบนขาตนเองได้


พท.พญ.กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี สมาชิกสภาพัฒนาการเมือง

kamolpar@yahoo.com

thai9lee@gmail.com

081- 2980284 Fax 027637722

www.parent-youth.net

www.thammapiban.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก